Range: รู้กว้างดียังไง

Tanapong Potipiti
2 min readJan 16, 2021

หมาจิ้งจอกกับเม่น

หมาจิ้งจอกเชี่ยวชาญในหลายสิ่ง แต่เม่นรู้เพียงอย่างเดียว
กวีชาวกรีก

หมาจิ้งจอกใช้อุบายหลากหลายในการหลบหนีและต่อสูักับศัตรู ต่างกับเม่นที่มีกลยุทธ์เดียวคือขดตัวกลมและพองขนแข็ง จากพฤติกรรมนี้ หมาจิ้งจอกและเม่นจึงถูกใช้เปรียบเทียบกับคนที่รู้กว้าง และรู้ลึก หนังสือเรื่อง Range ของ David Epstien ได้เปรียบเทียบจุดแข็งจุดอ่อนของคนที่รู้ลึกและรู้กว้าง และสรุปว่าในโลกปัจจุบัน
การรู้กว้าง (Range) น่าจะนำมาซึ่งความสำเร็จมากกว่าการรู้ลึก (Width)

เมื่อทุกคนอยากเป็น Tiger Woods

Tiger Woods เป็นนักกอล์ฟที่่ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงทศวรรษ 2000 ความสำเร็จของ Tiger มาจากการที่พ่อของเขาสอนเขาเล่นกอล์ฤตั้งแต่อายุ 1ขวบ ความสำเร็จของ Tiger ทำให้คนเชื่อเรื่อง Deliberate practice

ตามกฎของ Deliberate practice ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จในสิ่งใด คุณก็ต้องตั้งใจฝึกฝนสิ่งนั้นให้มากกว่าคน และเริ่มฝึกฝนให้เร็วกว่าคนอื่น เพื่อที่จะเป็น Experts ในสิ่งนั้น

อย่างไรก็ตาม Range ได้วิเคราะห์ว่า Deliberate practice จะมีประสิทธิภาพในการใช้ฝึกฝนทักษะในระบบปิดและมีรูปแบบตายตัวมากๆ เช่น กอลฟ์ หรือ หมากรุก เท่านั้น แต่ Deliberate practice ไม่มีประโยชน์มากนักในสถานการณ์เปิด และมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เหมือนโลกในปัจจุบัน

จำกัดของ Experts

งานวิจัยของ Kahneman และ Klein ในปี 2009 ทำการศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่าง ประสิทธิภาพในการทำงานกับประสบการณ์การทำงาน ทั้งคู่พบว่าประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อประสิทธิภาพในการทำงาน เฉพาะในอาชีพที่ใช้ทักษะเฉพาะเจาะจงมากๆ เช่น ในนักดับเพลิง แต่ในงานส่วนใหญ่ Kahneman และ Klein ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างประสบการณ์การทำงานที่มากขึ้นกับประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น

นอกจากนี้งานวิจัยทางเศรษฐศาสตร์พบว่า Experts ที่ออกมาพยากรณ์เหตการณ์สำคัญทางสื่อสาธารณะ มักให้คำพยากรณ์ที่ผิดมากกว่าถูก โดย Experts นี้มักจะมีมุมมองที่แคบเฉพาะในด้านที่ชำนาญ และละเลยที่จะวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น

นวัตกรรมถูกสร้างโดยคนที่รู้กว้าง

บริษัท 3M ทำการศึกษาการทำงานของนักประดิษฐ์ (inventor) และพบว่านักประดิษฐ์ที่ประสบความสำเร็จ มักมีความสนใจและงานอดิเรกที่หลากหลาย และไม่เกียวข้องกับงานที่ทำ โดยนักประดิษฐ์เหล่านี้มักเอาไอเดียที่จากหลายสาขามาเชื่อมโยงเข้าผสมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น การปฎิบัติวงการเกม โดยการสร้างเกม Arcade รุ่นแรกของ Nitendo เกิดการจากการผสมผสานความรู้สองสาขาคือ Mechnanics และ Electronics

คนที่ประสบความสำเร็จมากๆ ล้มเหลวมาหลายครั้ง และลองมาหลายอย่าง

สุดท้ายหนังสือได้ศึกษาชีวิตของคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงหลายคน และพบว่าก่อนที่จะสำเร็จ คนเหล่านี้ล้มเหลว และลองผิดลองถูกหลายๆอย่าง ตัวอย่างที่น่าสนใจ คือชีวิตของ Van Goh จิตรกรผู้วาดภาพ Starry Night ซึ่งเป็นภาพที่คนจดจำได้มากที่สุดในโลก

Van Goh ไม่ประสบความสำเร็จในทุกอาชีพที่เขาทำ ได้แก่ มิชชันนารี บาทหลวง พ่อค้างานศิลปะ หลังจากประสบความล้มเหลวในงานเหล่านี้ Van Goh กลับมาเรียนโรงเรียนศิลปะและฝึกวาดรูปในช่วงอายุ 30 ปี Van Goh สอบตกและไม่สามารถจบการศึกษาจากโรงเรียนศิลปะที่เขาเรียน เนื่องจากทุกอย่างที่เขาทำล้มเหลวหมด Van Goh จึงต้องหาหนทางใหม่ให้ตัวเอง เขาได้คิดค้นการลงสีแบบใหม่ และสไตล์ของเขาได้รับความนิยมอยากมาก และเปลี่ยนโลกแห่งศิลปะไปตลอดกาล

เอกสารเพิ่มเติม

David Epstein, Range: Why Generalists Triumph in a Specialized World
Tanapong Potipiti, Group Range: Group discussion guide

--

--